2G นั้นถูกนำมาใช้ช่วง พ.ศ. 2534 – 2543 โดยเปลี่ยนได้ส่งเสียงผ่านกระบวนการแอนะล็อกเป็นดิจิทัล โดยนำคลื่นเสียงมาเข้ารหัสดิจิทัล ก่อนที่จะแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นสัญญาณแอนะล็อกแล้วส่งผ่านคลื่นไมโครเวฟ
ยุค 2G นั้นมีการเชื่อมโยงติดต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนก่อให้เกิดการกำหนดเส้นทางการเชื่อมกับสถานีฐาน (Base Station) ซึ่งก่อให้เกิดระบบ GSM (Global System for Mobilization) ทำให้พกโทรศัพท์เครื่องเดียวไปใช้งานได้ทุกที่ที่รองรับมาตรฐานดังกล่าว
คุณสมบัติพื้นฐานและลักษณะทั่วไปของเทคโนโลยีในยุค 2G
1) ความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่เกิน 64 kbps
2) ใช้สัญญาณดิจิทัล
3) รองรับบริการ เช่น ข้อความ (SMS) และข้อความมัลติมีเดีย (MMS)
4) เริ่มมีการดาวน์โหลดริงโทน ภาพพื้นหลัง และภาพกราฟฟิกต่าง ๆ แต่ยังคงมีความละเอียดต่ำ
5) ยังไม่สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ
6) ต้องการใช้สัญญาณดิจิทัลที่เข้มเพื่อช่วยการทำงานของโทรศัพท์มือถือ โดยถ้าไม่มีเครือข่ายครอบคลุมในพื้นที่เฉพาะสัญญาณดิจิทัลก็จะอ่อนแอ
เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น จึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี 2G ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้มาเป็นเทคโนโลยี 2.5G ซึ่งใช้เทคโนโลยี GPRS (General Packet Radio Service) ซึ่งสามารถส่งข้อมูลแบบแพ็คเก็ตได้ ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือให้เหมาะสมกับการใช้งานอินเตอร์เน็ต
คุณสมบัติพื้นฐานและลักษณะทั่วไปของเทคโนโลยีในยุค 2.5G
1) สามารถรับส่งอีเมล์ (E-mail) ได้
2) เริ่มมีการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ต
3) ความเร็วในการรับส่งข้อมูล 64 – 144 kbps
4) โทรศัพท์สามารถถ่ายรูปได้
5) สามารถดาวน์โหลดเพลง MP3 ด้วยระยะเวลาประมาณ 6 – 9 นาที